บริษัทฯ จะติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ที่จุดสำคัญภายในสถานที่ อาคารและพื้นที่ต่าง ๆ ของบริษัทฯ แต่จะไม่ติดตั้ง ในบางพื้นที่ เช่น ห้องพัก ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ หรือสถานที่เพื่อใช้ในการพักผ่อนของผู้ปฏิบัติงานเป็นต้น และบริษัทจะมีป้ายแจ้งเตือนในสถานที่ที่มีการใช้งาน เกี่ยวกับกล้องวงจรปิด (CCTV) โดยเปิดเผย
ในกรณีที่บริษัทฯ ต้องขอข้อมูลส่วนบุคคลจากท่าน เพื่อเข้าทำหรือปฏิบัติตามสัญญา หรือปฏิบัติตาม กฎหมาย หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว บริษัทฯ อาจจะไม่สามารถดำเนินการตามที่ท่านประสงค์ได้
บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงจากท่านผ่านระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) โดยมีข้อมูลส่วน บุคคลที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
- ภาพเคลื่อนไหว ภาพนิ่ง เสียง เกี่ยวกับบุคคลธรรมดา
- ภาพเคลื่อนไหว ภาพนิ่ง เสียง เกี่ยวกับทรัพย์สิน ยานพาหนะ ของบุคคลธรรมดา
ข้อ 4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หน่วยงานรัฐ เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ศาล หรือหน่วยงาน อื่นใด ที่อาศัยอำนาจตามกฎหมาย
ผู้ให้บริการภายนอก เช่น ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการรักษา ความปลอดภัย ผู้ประเมินผลเพื่อการบริหารจัดการองค์กร ผู้ตรวจสอบภายนอก ที่ปรึกษาด้านต่าง ๆ เช่น ที่ปรึกษากฎหมาย เป็นต้น
บุคคลภายนอกอื่น ๆ เช่น บริษัทฯ ในเครือกิจการ ลูกค้า คู่ค้า บุคคลผู้เสียหาย เป็นต้น
ข้อ 5. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ กรณีที่มีเหตุต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ บริษัทฯ จะปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ ของ กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ
ข้อ 6. การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน - เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของการเฝ้าระวังสังเกตโดยการใช้อุปกรณ์กล้องวงจรปิดตามที่ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้กำหนด ระบบกล้องวงจรปิดจะเก็บภาพเคลื่อนไหวของบุคคลที่เข้ามาในระยะกล้องสามารถจับภาพได้ตลอด 24 ชั่วโมง และบริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลในกล้องวงจรปิดที่เกี่ยวข้องกับท่าน เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 14-30 วัน นับจากวันที่มีการบันทึก ซึ่งเมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวบริษัทฯ จะทำการ ลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามระบบของกล้องวงจรปิด
- กรณีที่เกิดเหตุอันตราย และข้อมูลในกล้องวงจรปิดได้นำไปใช้ในกระบวนการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่รัฐข้อมูลในกล้องวงจรปิดดังกล่าวจะนำไปใช้จนกว่ากระบวนการสืบสวนสอบสวนจะยุติลง
- หากข้อมูลในกล้องวงจรปิด ต้องนำไปใช้ในกระบวนการทางศาลเพื่อพิจารณาคดี ข้อมูลในกล้องวงจรปิดดังกล่าวจะนำไปใช้จนกว่ากระบวนการทางศาลนั้นจะสิ้นสุดลง
ข้อ 7. บริษัทฯ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measures) และมาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measures) เพื่อรักษาความปลอดภัยใน การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลตามหลักเกณฑ์ที่ กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
ข้อ 8. ความรับผิดชอบของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่บันทึกจากกล้องวงจรปิด (CCTV) และจำกัดการเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวเฉพาะบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น เพื่อป้องกันการนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลจากกล้องวงจรปิด ดังนี้
- ฝ่ายที่ได้รับมอบหมายจากบริษัทฯ – เพื่อดำเนินการตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และกำกับดูแลการใช้งานกล้องวงจรปิดให้เป็นไปตามนโยบายของบริษัทฯ
- ฝ่ายกฎหมายหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) – เพื่อตรวจสอบกรณีที่เกี่ยวข้องกับข้อพิพาททางกฎหมาย หรือการร้องขอข้อมูลตามสิทธิของเจ้าของข้อมูล
- หน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจตามกฎหมาย – เช่น ตำรวจ หน่วยงานกำกับดูแล หรือศาล เมื่อมีการร้องขอข้อมูลอย่างเป็นทางการ
- บุคคลภายนอกที่ได้รับอนุญาตจากบริษัทฯ – เช่น บริษัทประกันภัยในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ หรือ ผู้ให้บริการด้านเทคนิคที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลระบบกล้องวงจรปิด
ข้อ 9. สิทธิของเจ้าของข้อมูล (1) สิทธิเพิกถอนความยินยอม
ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัทฯ
ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านอาจส่งผลกระทบต่อการพิจารณางาน สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่ท่านพึงได้รับจากบริษัทฯ หรือไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์แก่ท่าน เป็นต้น เพื่อประโยชน์ของท่าน จึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนเพิกถอนความยินยอม
(2) สิทธิเข้าถึง รับสำเนา และรับทราบการได้มา
ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้กับท่าน รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความครอบครองของบริษัทฯ
(3) สิทธิโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทฯ ได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้ สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผย ข้อมูล ส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยัง ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง
(4) สิทธิในการคัดค้าน
ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีเพื่อการที่ จำเป็นภายใต้ประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย หรือภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับ การตลาดแบบตรง หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ
(5) สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้
(6) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทฯ อยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้ สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทฯ หมดความจำเป็นและต้องลบ หรือ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้แทน
(7) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
(8) สิทธิร้องเรียน
ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากท่านเชื่อว่า การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือ ไม่ปฏิบัติ ตามกฎหมาย
ในกรณีที่ท่านยื่นคำร้องขอใช้สิทธิภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อบริษัทฯ ได้รับคำร้องขอ ดังกล่าวแล้ว จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด อนึ่ง บริษัทฯ อาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการ ตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น บริษัทฯ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิของท่านอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น โดยบริษัทฯ จะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธ ให้ท่านทราบด้วย
ข้อ 10. การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัว ในการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงประกาศนี้ บริษัทฯ อาจพิจารณาแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทางบนเว็บไซต์ https://www.sts.co.th/ โดยมีวันที่ของเวอร์ชันล่าสุดกำกับอยู่ตอนท้าย อย่างไรก็ดี เราขอแนะนำให้ท่านโปรดตรวจสอบเพื่อรับทราบประกาศฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะเข้ามาในพื้นที่ของเรา
การเข้ามาในพื้นที่ของท่าน ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในประกาศนี้ ทั้งนี้ โปรดระงับการเข้าพื้นที่ หากท่านไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงในประกาศฉบับนี้ หากท่านยังคงเข้ามาในพื้นที่ต่อไปภายหลังจากที่ประกาศนี้มีการแก้ไขและนำขึ้นประกาศในช่องทางข้างต้นแล้ว จะถือว่าท่านได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว
ข้อ 11. ช่องทางการติดต่อ - ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller)
- ชื่อ: กลุ่มบริษัท STS GROUP
- สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 196/8-12 ซอยประดิพัทธ์ 14 ถนนประดิพัทธ์ แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
- ช่องทางการติดต่อ: dpo@sts.co.th
- Call Center: 02-270-8899
- เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)
- ชื่อ: ธัญญพัทธ์ สิระพงษ์วิชยา
- สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 196/8-12 ซอยประดิพัทธ์ 14 ถนนประดิพัทธ์ แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
- ช่องทางการติดต่อ: dpo@sts.co.th
- Call Center: 02-270-8899
ข้อ 12. กฎหมายที่ใช้บังคับ ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้อยู่ภายใต้การบังคับใช้ตามกฎหมายไทย และศาลไทยเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณาข้อพิพาทใดที่อาจเกิดขึ้น